ประวัติ Ukulele






"Ukulele" เป็นภาษาฮาวายเอี้ยน ความหมายของคำว่า "ukulele" ถูกแยกเป็นสองคำคือ "uku" ซึ่งแปลว่า "ของขวัญหรือรางวัล"
ส่วนคำว่า "lele" แปลว่า "การได้มา" ดังนั้นเมื่อนำสองคำนี้มารวมกัน จึงแปลความหมายได้ว่า "ของขวัญที่ได้มา"

"Ukulele" อาจจะเป็นเครื่องดนตรีชิ้นใหม่สำหรับใครบางคน แต่สำหรับนักดนตรี หรือผู้คนบนเกาะฮาวาย(Hawaii) Ukulele เป็นเครื่องดนตรีที่เป็นเสมือนศิลปะ และวัฒนธรรมของชาวฮาวายเอี้ยน เครื่องดนตรีชิ้นนี้ถูกเล่นในงานรื่นเริงต่างๆ ในทุกๆ เทศกาล Ukulele กลายเป็นเครื่องดนตรีชิ้นเอกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งบนเกาะฮาวาย ดังนั้น ชาวฮาวายเอี้ยนกับอูกูลีเล จึงแยกจากกันไม่ออก!
Ukulele คืออะไร?
เครื่องดนตรีที่มีขนาดเล็กพกพาสะดวก สวยสะดุดตาเมื่อแรกเห็น และตัวจิ๋วเล็กนิดเดียว ในชื่อ "Ukulele" (ออกเสียงว่า อูกูลีเล)
บางท่านอาจจะสามารถเรียกอีกชื่อว่า อูกี (Uke) ก็คงไม่ผิด เครื่องดนตรีชิ้นนี้เกิดมาก่อนสงครามโลกสะอีก อายุอานามไม่แพ้อะคูสติกกีต้าร์ เพียงแต่ว่าเครื่องดนตรีทั้งสองมีการกำเนิด และมีการพัฒนาที่แตกต่างกัน

กีต้าร์โปร่งโด่งดังและพัฒนามาจากอเมริกา และ Ukulele เป็นเครื่องดนตรีพื้นบ้านมาจากเกาะฮาวาย เกิดมาก่อนยุคสงครามโลก
ต่อมาช่วงยุค 60's เจ้า Ukulele ขึ้นมาโด่งดังและรู้จักกันแพร่หลายมากขึ้น เพราะว่านักดนตรีโฟล์คซอง และแจ๊ส ได้นำมันไปเล่น
ตามสถานที่ต่างๆ ทำให้ผู้คนทั่วไปเริ่มคุ้นหน้าคุ้นตา และรู้จักกับเจ้า Ukulele มากขึ้น
"John Lennon / George Harrison / Elvis Presley"
ผู้คนต่างแดนเริ่มพบเห็น และรู้จักเจ้า Ukulele อย่างแพร่หลายมากขึ้น เช่นวง The Kingston Trio (American Folksong) เป็นวงโฟล์คซอง
ก่อนยุค Peter Paul & Mary, ซึ่งเป็นวงดนตรีโฟล์คซองที่มีชื่อเสียงมากในยุคนั้น ทั้ง David Guard และ Bob Shane เกิดและโตมาจากเกาะฮาวาย เล่น Ukulele มาตั้งแต่เด็ก หรือแม้กระทั้งสมาชิกวง "The Beatles" ยังเคยนำเจ้า Ukulele ไปใช้ ยังรวมทั้ง "Elvis Presley"
ในช่วงยุค 80's Ukulele เริ่มตกกระแส ความนิยม การนำมาใช้เล่น และการกล่าวถึงเริ่มจางลงจนแทบจะหายไป

ต่อมาในช่วงปี 1990 เกิดกระแสขึ้นอีกครั้ง เมื่อเกิดศิลปิน Israel Kamakawiwo'ole(IZ) นักดนตรีจากเกาะฮาวาย ด้วยเอกลักษณ์ตัวอ้วนใหญ่คล้ายกับยักษ์ แต่เลือกที่จะเล่น Ukulele ตัวจิ๋วเป็นเครื่องดนตรีคู่กาย, IZ จึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก กระแส IZ จึงเกิดมาพร้อมกับ Ukulele เพลงของ IZ ยังถูกไปใช้เป็นเพลงประกอบหนังอยู่เป็นระยะๆ

IZ ได้ร้องและเล่นบทเพลง "Over the Rainbow/What a Wonderful World" ซึ่งทำให้ผู้คนเริ่มหลงเสน่ห์ในเสียงของ ukulele เข้าอย่างจัง
"IZ Israel Kamakawiwo'ole / Jake Shimabukuro"
ปลายยุค 90's หลังจากที่ Ukulele เริ่มแพร่หลายในอเมริกา เจ้า Ukulele ยังไปมีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย เพราะเด็กหนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่นฮาวายฝีมือขั้นเทพนามว่า "Jake Shimabukuro" ได้นำ Ukulele มาเล่นเพลงได้อย่างน่าทึ่ง ด้วยลีลาอันสุดเร้าใจ ดุดัน รุนแรง
ทั้งวิธีการนำเอาเพลงที่เคยได้รับความนิยมในอดีต มา cover ด้วย Ukulele จึงทำให้ผู้ฟังสามารถเข้าถึงเสน่ห์ของ Ukulele ได้ง่ายขึ้น

Jake จึงถือเป็นผู้ที่มีบทบาทมากที่สุดคนหนึ่ง ที่ทำให้วัยหนุ่มสาวยุคใหม่ เริ่มหันมาสนใจที่จะฝึกหัด และหัดเล่น ukulele อย่างจริงๆ จังๆ
นอกจากนั้นแล้ว ศิลปินยุคใหม่เช่น "Jack Johnson" และ "Jason Mraz" ก็ยังเล่น ukulele กับเขาด้วย

ประเภทของ Ukulele มีขนาดใดบ้าง?
Ukulele มีสายเพื่อใช้บรรเลงเพลงแค่เพียง 4 สาย โดยใช้สายไนล่อน รูปทรงจะเล็กกว่าอะคูสติกกีต้าร์มาก ซึ่งจะมีขนาดอยู่ 4 ขนาด คือ

1) soprano (standard size) มีขนาดความยาว 21" นิ้ว
2) concert มีขนาดความยาว 23" นิ้ว
3) tenor มีขนาดความยาว 26" นิ้ว
4) baritone มีขนาดความยาว 30" นิ้ว
Ukulele แต่ละขนาด มีเอกลักษณ์อย่างไร?
Soprano ถือเป็นขนาดมาตรฐานสำหรับชาวฮาวายเอี้ยน แต่สำหรับคนไทยอาจจะไม่ใช่ โดยเฉพาะผู้ที่เล่นอะคูสติกกีต้าร์มาก่อน
ถ้าหากเริ่มต้นหัดจากขนาด Soprano อาจจะท้อสะก่อน เพราะยิ่งขนาดเล็กเท่าไร ก็ยิ่งทำให้การเล่นทำได้ยากมากขึ้นเท่านั้น

Fingerboard ที่เล็ก ทำให้การวางตำแหน่งของมือซ้ายทำได้ยาก และขนาดตัวที่เล็กก็ทำให้การโอบ หรือการพยุงมันขึ้นมาแนบกับอก
ก็ยิ่งทำได้ยาก เพราะยิ่งโอบไว้นานยิ่งเมื่อย รวมถึงระยะห่างของสายทั้งสี่เส้นก็มีระยะห่างน้อยมาก จึงทำให้การเล่น finger ตามได้ยาก

แต่ไม่ใช่ว่าขนาด Soprano นี้จะไม่ดี มันก็เหมือนกับอะคูสติกกีต้าร์นั่นล่ะ ที่แต่ละทรงก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งขนาด Soprano
จะให้เสียงที่คมชัด แหลมดี และย่านเสียงสูงยอดเยี่ยมกว่าทรงอื่นๆ มันเหมาะเป็นอย่างยิ่งกับการเล่นแบบตีคอร์ด เป็น Background
ให้กับวง ดังนั้น ukulele ขนาด Soprano จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เล่น Ukulele ได้คล่องแล้ว และเน้นสไตล์การเล่นแบบตีคอร์ด

Concert จะมีขนาดที่ใหญ่กว่าขนาด soprano ขนาดตัว และฟิงเกอร์บอร์ดที่มีความกว้างมากขึ้นนั้น ช่วยทำให้การเคลื่อนของมือซ้าย
ทำได้ง่ายขึ้น เอกลักษณ์เสียงของขนาด Concert คือให้เสียงแหลมพอประมาณ และมีเสียงกลางผสม จึงเหมาะกับการใช้เล่น ในสไตล์
strum-chord(ตีคอร์ด) เป็นหลัก แต่สามารถใช้เล่นสไตล์ finger-picking ได้เช่นกัน

Tenor มีขนาดใหญ่กว่า concert ผู้เล่นสามารถเล่นได้ง่าย คือทั้งการโอบหรือพยุงขึ้นแนบกับอกทำได้ง่ายขึ้น การใช้มือซ้ายและมือขวา
เคลื่อนไหวได้ง่าย ขนาดของลำตัว(body) และฟิงเกอร์บอร์ดที่ใหญ่ขึ้นนั้น จึงเหมาะกับผู้ที่มีนิ้ว/มือที่ใหญ่ หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มหัดเล่น
เอกลักษณ์เสียงอยู่ที่เสียงกลางดี มีเนื้อเสียงที่ชัดเจน จึงเหมาะกับการเล่นแบบ finger-picking และ solo ได้ดี เสียงที่ออกมาจะมีความ
ใกล้เคียงอะคูสติกกีต้าร์พอสมควร แต่ tenor ให้โทนเสียงแหลมคมและการพุ่งของเสียง จะน้อยกว่า soprano และ concert

Baritone เหมาะกับการเล่นโน๊ตเป็นตัวๆ หรือการเล่นแบบโซโล หรือเล่นแบบ Finger-style ให้ย่านเสียงต่ำดี แต่ย่านเสียงสูงไม่โดดเด่น
จึงตอบสนองเสียงคมๆ แหลมๆ ได้ไม่ดีนัก มีเสียงใกล้เคียงกับอะคูสติกกีต้าร์มากที่สุด
 
"ภาพแสดงส่วนประกอบต่างๆ ของ Ukulele"
วิธีการตั้งสาย Ukulele แบบมาตรฐาน(C tuning):

การตั้งสาย ukulele สำหรับขนาด "soprano", "concert" และ "tenor" มีหลายแบบ ในที่นี้ขอยกตัวอย่างการตั้งแบบมาตรฐาน ให้ตั้งเป็น
G(สาย4)
C(สาย3)
E(สาย2)
A(สาย1)
สรุปง่ายๆ ว่า ถ้าเอาคาโป้(capo) มาคาดตรง fret ที่ 5 ของคออะคูสติกกีต้าร์ ก็เหมือนกับเล่น Ukulele แล้วครับ
คือทุกๆ สายจะเป็นโน๊ตตัวเดียวกันหมด ทั้งขนาด soprano, concert และ tenor (แต่ G ของสาย 4 เป็นเสียงสูง)
สำหรับเครื่องตั้งสายอะคูสติกกีต้าร์สมัยใหม่ จะมีให้เลือกตั้งสายแบบ ukulele ด้วย แต่ถ้าไม่มีก็สามารถตั้งได้ถ้าเราจำเสียงได้
Baritone
วิธีการตั้งสายสำหรับขนาด Baritone จะแตกต่างกับขนาดอื่นๆ คือให้ตั้งเป็น D G B E จะสังเกตุเห็นว่า การตั้งแบบนี้ก็เหมือนกับ
การตั้งสายล่าง(เสียงสูง)ของอะคูสติกกีต้าร์ ดังนั้น Baritone จะตั้งสายโดยถอดแบบมาจากสายล่าง(เสียงสูง)ของกีต้าร์ คือ
4(D)
3(G)
2(B)
1(E)

Ukulele ทำจากไม้ประเภทใดบ้าง?
ถ้าจะถามว่าประเภทไม้ หรือไม้ชนิดใดที่เป็นต้นฉบับ และนิยมสำหรับ Ukulele? ก็คงจะต้องตอบว่า ต้องเป็นไม้ "Koa" หรือ
"Hawaiian Koa" แต่คงไม่ได้หมายถึงว่าไม้ Koa ให้เสียงที่ดีที่สุด เนื่องจากไม้แต่ละชนิดก็มีลักษณะโดดเด่นทางด้านเสียงที่แตกต่างกัน
ทั้งหมดขึ้นอยู่กับรสนิยมของผู้เล่น ว่าชอบลักษณะเสียงแบบใด เรามาดูคุณสมบัติของไม้แต่ละประเภทกัน...

ไม้ Koa (Hawaiian Koa)
ซึ่งถือกำเนิดมาจาก Hawaii สีไม้น้ำตาลอ่อน ออกผสมสีส้ม และมีลายเข้ม สะท้อนแสงได้อย่างดี ให้เสียงย่านสูงดี เสียงจะเด่นไปทาง
แหลมคมและชัด ว่ากันว่าถ้าใช้ไม้ Koa ประกอบทั้งตัว จะได้เสียงที่ Balance ดีมากๆ ดังนั้นเราจึงเห็นว่า กีต้าร์แบนด์ดังๆ จึงนิยมใช้ไม้ Koa
ประกอบทำอะคูสติกกีต้าร์แบบทั้งตัว (all Koa) และไม้ชนิดนี้มีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับไม้อย่าง Indian rosewood, หรือ Mahogany
ดังนั้น Ukulele ที่ใช้ไม้ Koa ประกอบทั้งตัว (all Koa) และโดยเฉพาะ Koa ที่ลายไม้สวยๆ จะมีราคาค่อนข้างสูงมาก
ไม้ Mango
เป็นอีกไม้ชนิดหนึ่งที่ได้รับการกล่าวถึงว่า มันสามารถให้เสียงที่ใกล้เคียงกับไม้ Koa มากที่สุด แต่ราคาไม่สูงเนื่องจากหาได้ไม่ยากนัก
ลายไม้เป็นทางและมีความแปลกกว่าลายไม้อื่นๆ สีออกน้ำตาลและดำผสมกัน มีความสวยงาม เช่นยี่ห้อ Oscar Schmidt เป็นต้น
ไม้ Mahogany
เป็นไม้อีกประเภทที่ให้เสียงคล้ายกับ Koa แต่มันให้เสียงแหลมคมที่ดีกว่า ทนกับอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ดีกว่า สีและลายไม้อาจจะ
ไม่สวยเท่ากับ Koa, แต่ถ้าจะเอาแบบลายไม้สวยราคาก็จะสูงตามไปด้วย และค่อนข้างหายาก
ไม้ Spruce และ Cedar สำหรับทำไม้หน้า(top)
ไม้บางอย่างเหมาะเฉพาะที่จะนำมาทำเป็นไม้หน้าเท่านั้น เช่น Spruce, และ Cedar เป็นต้น ไม้ ทั้งชนิดเป็นไม้เนื้ออ่อน ซึ่งช่วยลดความแข็ง
ของเสียงที่สะท้อนมาจากไม้แผ่นหลังและข้างได้ ทำให้เสียงนุ่มนวลขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบเสียงนุ่มนวลสักนิด
อย่างเช่นยี่ห้อ Oscar Schmidt ก็ใช้ไม้ประเภทนี้

ไม้ที่นิยมกันมากคือ Sitka Spruce และ Cedar, คุณสมบัติของ Spruce สามารถลดความแข็งและแหลมของเสียง ช่วยทำให้เสียงนุ่มนวลขึ้น
ส่วนคุณสมบัติของไม้ cedar แม้จะช่วยลดเสียงแหลมลงบ้างแต่ก็ไม่มากนัก แต่คุณสมบัติจริงๆของมันก็คือ การให้โทนหางเสียงที่คมๆ และดุดัน
 
บางยี่ห้อยังใช้วัสดุไฟเบอร์กลาส(Fiberglass) มาทำส่วนหลังและข้าง(back & side) ของตัว ukulele ด้วย เช่นยี่ห้อ Fluke
หลักการเหมือนกันกับ Ovation Guitar ให้เสียงที่แปลกไปอีกแบบ ข้อดีคือความทนทานต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และการดูแลรักษา
ยังทำได้ง่ายกว่า Ukulele ที่ทำจากไม้ทั้งตัว แต่ให้เสียงไม่เป็นธรรมชาติเท่ากับ ukulele ที่ทำจากไม้ทั้งตัว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น